เพื่อนสมัยมัธยมศึกษาของผมคนหนึ่ง เป็นคนที่มีเส้นทางเดินของชีวิตและงานที่ไม่ธรรมดา หลังจากผมเขียนข้อคิดเรื่องคุยกับคนวัยเกษียณ เขาก็ส่งข้อความทักทายมาว่า
"บางคนการรอจนเกษียณ อาจสายเกินไป พอเกษียณแล้วจึงรู้ว่าบันใดชีวิตที่ปีนมาจนถึงปลายทางนั้นพาดผิดด้าน เวลาที่ผ่านมาช่างน่าเสียดาย ผมจึงไม่รอให้ถึงวัยเกษียณแล้วค่อยคิด"
เป็นสิ่งเตือนใจว่า การทบทวนเส้นทางเดินของชีวิตควรทำแต่เนิ่นๆ และทำเป็นประจำ
หากเปรียบชีวิตเป็นการเดินทาง เราควรจะต้องรู้จุดหมายปลายทางว่าเราจะไปไหน และยังควรหมั่นประเมินว่า เรากำลังไปถูกทางหรือไม่ ไม่ปล่อยให้สิ่งต่างๆ มาดึงเราออกนอกเส้นทาง
หลายปีมานี้ ผมได้พูดคุยกับคนจำนวนมากที่ประสบปัญหาการค้นหาจุดหมายชีวิต พบในทุกเพศ ทุกวัย ตั้งแต่วัยเรียนที่ไม่รู้ว่าควรเรียนต่ออะไรดี วัยทำงานที่อยากรู้ว่าควรทำงานอะไร ย้ายงานดีหรือไม่ ควรออกมาทำธุรกิจของตนเองหรือยัง หรือแม้แต่วัยเกษียณ หรือในวันที่คู่สมรสตายจากไป ที่ไม่ชัดว่าจะมีชีวิตอยู่ไปเพื่ออะไร จุดหมายสำคัญของชีวิตคืออะไร
ผมทบทวนดูแล้วพบว่า มีปัจจัยหลายอย่างที่ดึงเราออกจากการค้นพบจุดหมายของตนเอง ขอลองเรียบเรียงให้ศึกษากันดูนะครับ
หนึ่ง ความคาดหวังของคนรอบข้าง ซึ่งแม้ว่าส่วนใหญ่จะมีเจตนาดี แต่ก็อาจดึงเราถอยห่างจากความต้องการในส่วนลึกของจิตใจเราเองได้ คนรอบข้างในที่นี้ หมายรวมถึงพ่อแม่ ญาติพี่น้อง เพื่อนฝูง คนรู้จัก หรือแม้แต่ข้อคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ
สอง ค่านิยมและสิ่งแวดล้อมที่คอยกระตุ้นให้เราเร่งรีบหาเงินทอง และความสุขทางวัตถุ สร้างความคาดหวังที่ต้องประสบความสำเร็จให้เร็ว มีเงินเก็บมากพอที่จะหยุดทำงานได้ตั้งแต่อายุน้อย เป็นภาพฝันที่ทุกคนปรารถนา และใช้เป็นเกณฑ์เปรียบเทียบกับความก้าวหน้าในชีวิตของตนเอง หลายคนเมื่อก้าวไปถึงจุดหมายปลายทางเช่นนี้ มักเกิดคำถามตามมาว่า "แล้วยังไงต่อ"
สาม กระบวนการบ่มเพาะคนรุ่นใหม่ ที่ไม่ได้ช่วยให้เยาวชนค้นพบตัวเองผ่านการได้ทดลองทำสิ่งต่างๆ จึงไม่รู้ความถนัดและจุดแข็งของตน ไม่มีโอกาสทบทวนความชอบความสนใจ และไม่รู้ทางเลือกที่มีอยู่ คนวัยเรียนและวัยทำงานตอนต้นส่วนใหญ่ที่ผมคุยด้วยมักจะมีโจทย์ในเรื่องนี้กันมาก
สี่ แนวโน้มของคนเราที่จะมองหาสาเหตุและทางแก้ปัญหาชีวิต จากสิ่งภายนอกตัว โดยมองไม่เห็นว่าสิ่งที่อยู่ภายในใจเป็นทั้งเหตุและทางแก้ในปัญหาสำคัญๆ ของชีวิต
ปัจจัยที่สี่ เป็นสิ่งที่อยู่คู่กันกับมนุษย์เรามานาน และเป็นสิ่งคู่กันกับความพยายามค้นหาสัจจธรรมของชีวิตของปราชญ์ในทุกยุคสมัย
ผมเชื่อว่า ไม่ช้าก็เร็ว คุณคงจะมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบง่ายๆ ที่เราพอใจ จนกว่าเราจะค้นพบด้วยตนเองซ้ำแล้วซ้ำอีก